การซื้อบ้านต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้าง ?
"บ้าน" ในความหมายทั่วไป หมายถึง สิ่งปลูกสร้างที่มนุษย์ใช้เป็นที่พักอาศัย เป็นสถานที่ที่ให้ความปลอดภัย ความอบอุ่นใจ เป็นจุดเริ่มต้นของความรัก ความสัมพันธ์ และความผูกพันในครอบครัว แต่ความหมายของ "บ้าน" นั้น ขึ้นอยู่กับมุมมองและประสบการณ์ของแต่ละบุคคล
สำหรับบางคน บ้าน อาจหมายถึง:
สถานที่ที่เกิดและเติบโต:
เป็นสถานที่ที่เต็มไปด้วยความทรงจำ มีทั้งสุขและทุกข์ เป็นจุดเริ่มต้นของชีวิต เป็นรากเหง้าที่หล่อหลอมให้เป็นคนในปัจจุบัน
สถานที่ที่อยู่ร่วมกันกับครอบครัว:
เป็นสถานที่ที่เต็มไปด้วยเสียงหัวเราะ รอยยิ้ม และความอบอุ่น เป็นสถานที่ที่ได้เรียนรู้การใช้ชีวิต การอยู่ร่วมกัน เป็นสถานที่ที่รู้สึกปลอดภัยและเป็นตัวของตัวเอง
สถานที่ที่แสดงถึงตัวตน:
สะท้อนถึงรสนิยม ความชอบ และไลฟ์สไตล์ของผู้อยู่อาศัย เป็นสถานที่ที่รู้สึกผ่อนคลาย สบายใจ เป็นสถานที่ที่ได้ชาร์จพลัง เติมพลังให้กับชีวิต
สถานที่ที่ให้ความรู้สึกปลอดภัย:
เป็นสถานที่ที่สามารถปกป้องตัวเองจากอันตรายต่างๆ เป็นสถานที่ที่รู้สึกสงบสุข ไร้กังวล เป็นสถานที่ที่ได้พักผ่อนหย่อนใจ
การซื้อบ้านเป็นการตัดสินใจครั้งสำคัญในชีวิต ดังนั้นจึงต้องเตรียมตัวให้พร้อมทั้งด้านการเงินและด้านอื่นๆ ดังนี้
1. ประเมินความพร้อมทางการเงิน
เช็คความสามารถในการกู้เงิน:
พิจารณาจากรายได้ เงินเดือน ฐานะการเงิน ภาระหนี้สิน
คำนวณยอดผ่อนชำระที่สามารถรับไหว โดยไม่กระทบต่อค่าใช้จ่ายอื่นๆ
ลองใช้เครื่องมือ
คำนวณสินเชื่อ
ออนไลน์เพื่อประเมินคร่าวๆ (คำนวนสินเชื่อ
คลิก)
เตรียมเงินดาวน์:
โดยทั่วไปธนาคารจะให้กู้สูงสุด 80-90% ของราคาบ้าน
คุณต้องเตรียมเงินดาวน์ 10-20% ของราคาบ้าน
เงินดาวน์ควรมาจากเงินออม ไม่ควรใช้วิธีการกู้
วางแผนค่าใช้จ่ายอื่นๆ:
นอกจากค่าผ่อนบ้าน ยังมีค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่ต้องเตรียมไว้ เช่น ค่าธรรมเนียมการโอนกรรมสิทธิ์ ค่าตกแต่งบ้าน ค่าเฟอร์นิเจอร์ ฯลฯ
2. หาข้อมูลเกี่ยวกับบ้าน
กำหนดประเภทบ้านที่ต้องการ:
บ้านเดี่ยว ทาวน์โฮม คอนโดมิเนียม
พิจารณาจากไลฟ์สไตล์ งบประมาณ พื้นที่การใช้งาน
เลือกทำเลที่เหมาะสม:
ใกล้ที่ทำงาน โรงเรียน ห้างสรรพสินค้า
สะดวกต่อการเดินทาง มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน
พื้นที่ปลอดภัย เหมาะกับการอยู่อาศัย
เปรียบเทียบโครงการบ้านต่างๆ:
ราคา ขนาด พื้นที่ ส่วนกลาง สิ่งอำนวยความสะดวก
ชื่อเสียงของผู้พัฒนา
รีวิวจากลูกค้า
3. เลือกสินเชื่อบ้าน
เปรียบเทียบข้อเสนอจากธนาคารต่างๆ:
อัตราดอกเบี้ย ระยะเวลาผ่อน ค่าธรรมเนียม
โปรโมชั่นพิเศษ เงื่อนไขการกู้
เลือกสินเชื่อที่เหมาะกับความต้องการ:
พิจารณาจากอัตราดอกเบี้ย ระยะเวลาผ่อน
ความสามารถในการผ่อนชำระ
เงื่อนไขการกู้ที่ยืดหยุ่น
4. เตรียมเอกสาร
เอกสารประจำตัว เช่น บัตรประชาชน ทะเบียนบ้าน
เอกสารแสดงรายได้ เช่น สลิปเงินเดือน ใบรับรองการทำงาน
เอกสารแสดงฐานะการเงิน เช่น หนังสือบัญชี
เอกสารอื่นๆ ที่ธนาคารต้องการ
5. ยื่นขอสินเชื่อ
เตรียมเอกสารให้ครบถ้วน
ยื่นขอสินเชื่อกับธนาคารที่เลือกไว้
รอผลพิจารณาจากธนาคาร
6. ตรวจบ้านก่อนโอนกรรมสิทธิ์
ตรวจบ้าน
จะแบ่งเป็น 2 รอบ ก่อนและหลังการแก้ไข
ประเมินราคาค่าตรวจสอบบ้านฟรี @line :
@passengineering
7. เซ็นสัญญาซื้อขาย
เมื่อธนาคารอนุมัติสินเชื่อ
ทำสัญญาซื้อขายกับผู้ขาย
โอนกรรมสิทธิ์
8. เข้าอยู่บ้าน
เตรียมบ้านให้พร้อมสำหรับการอยู่อาศัย
แจ้งย้ายถิ่นฐาน
ติดตั้งเครื่องใช้ไฟฟ้า เฟอร์นิเจอร์
9. ดูแลรักษาบ้าน
ตรวจสอบสภาพบ้านเป็นประจำ
ซ่อมแซมปรับปรุงบ้านเมื่อจำเป็น
ดูแลรักษาความสะอาด
เพิ่มเติม
ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับกฎหมายและระเบียบต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการซื้อบ้าน
ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านการเงินหรือตัวแทนอสังหาริมทรัพย์
ระมัดระวังมิจฉาชีพที่หลอกลวงขายบ้าน
การซื้อบ้านเป็นการลงทุนระยะยาว ดังนั้นควรศึกษาข้อมูลอย่างละเอียด เปรียบเทียบอย่างรอบคอบ
บริการของเรา
ตรวจงานสถาปัตยกรรม
ตรวจงานระบบไฟฟ้า
ตรวจงานระบบสุขาภิบาล
ตรวจงานภายนอกตัวบ้าน
Scroll to Top